มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประสบความสำเร็จในการประเมิน SROI แผนงานวิจัยสมุนไพร สวก. ด้วยค่า SROI 3.28
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการดำเนินงานภายใต้แผนงาน
“เครือข่ายบริหารงานวิจัย สวก. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง: การยกระดับงานวิจัยสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม และเครื่องสำอางร่วมกับผู้ประกอบการ”
โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ระวิวรรณ์ เจริญทรัพย์ หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรครบวงจร เป็นผู้อำนวยการแผนงาน ซึ่งสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนทางสังคม หรือ SROI ได้สูงถึง 3.28 เท่า
หมายความว่า ทุกการลงทุน 1 บาท สามารถก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางสังคมถึง 3.28 บาท สะท้อนถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพของการสนับสนุนทุนวิจัยที่เชื่อมโยงกับการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และการพัฒนาสังคม
ภายใต้แผนงานดังกล่าว ประกอบด้วยโครงการย่อย 4 โครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
โครงการที่ 1: การศึกษาความปลอดภัยและผลของเม็ดฟู่ที่มีส่วนผสมของสารสกัดขมิ้นชัน
หัวหน้าโครงการ: อาจารย์นายแพทย์ชนาธิป เปรมวิชัย
สำนักวิชาแพทยศาสตร์
โครงการที่ 2: การขยายกำลังการผลิตสารเบต้ากลูแคนจากเส้นใยเห็ดนางฟ้า เพื่อใช้เป็นสารพรีไบโอติกในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรไบโอติก
หัวหน้าโครงการ: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุนิตา แจ่มยวง
สำนักวิชาวิทยาศาสตร์
โครงการที่ 3: การศึกษาทางคลินิกของผลิตภัณฑ์สารสกัดแคปซูลกระเทียมดำ
หัวหน้าโครงการ: อาจารย์ ดร.นันทกานต์ วุฒิศิลป์
สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ
โครงการที่ 4: การขยายขนาดการผลิต การทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิก และความพึงพอใจในการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่มีองค์ประกอบของอนุภาคนาโนกักเก็บสารสำคัญจากสมุนไพร
หัวหน้าโครงการ: ดร.สุวิมล สุรัสโม
ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
แผนงานนี้ก่อให้เกิดผลกระทบที่ชัดเจนในหลากหลายมิติ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ดังนี้:
ด้านเศรษฐกิจ (SDG 8): ลดการนำเข้าสารสำคัญจากต่างประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาวัตถุดิบสมุนไพรภายในประเทศ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการสมุนไพร
ด้านสุขภาพและสาธารณสุข (SDG 3): ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เช่น เม็ดฟู่ขมิ้นชัน และแคปซูลกระเทียมดำ ช่วยลดผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด และเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
ด้านวิชาการและนวัตกรรม (SDG 9): เกิดผลงานตีพิมพ์ งานวิจัยเชิงลึก และต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพต่อยอดเชิงพาณิชย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรในประเทศ
ด้านความร่วมมือ (SDG 17): ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน ภายใต้โมเดล Triple Helix สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ แผนงานยังส่งเสริมการลงทุนร่วมจากภาคเอกชน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิต และการเติบโตของอุตสาหกรรมสมุนไพรในประเทศ เป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยได้จริงในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในการขับเคลื่อนประเทศด้วยวิจัยและนวัตกรรมตามวิสัยทัศน์
“The University for Well-being and Sustainable Future”
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.
และ กองทุนส่งเสริม ววน. ปีงบประมาณ 2566 โดยมีภาคเอกชนร่วมลงทุนทั้งในรูปแบบ In Cash และ In Kind ถือเป็นต้นแบบของแผนงานวิจัยที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงและขยายผลได้อย่างยั่งยืน