มฟล. ร่วมขับเคลื่อนพลังวิจัยไทย ใช้งานจริง ในเวที RU CONNEXT (ภาคเหนือ)
แสดงศักยภาพการใช้ประโยชน์งานวิจัยสู่ผลลัพธ์จริงในทุกมิติ
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา วงศ์เกษมจิตต์ รองอธิการบดี พร้อมด้วย คุณกานต์กุญช์ บำรุงชาติ หัวหน้าส่วนบริหารงานวิจัย และ ดร.ชลิดา ธนินกุลภรณ์ หัวหน้าส่วนจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม เข้าร่วมกิจกรรม “RU CONNEXT: สานพลัง วิจัยไทย ใช้งานจริง ครั้งที่ 1 (ภาคเหนือ)” ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อผลักดันผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเข้าสู่การใช้ประโยชน์จริงในทุกมิติ ทั้งด้านนโยบาย พาณิชย์ และสังคม ภายใต้แนวคิด “SRI for ALL”
ในการนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และการบรรยายหัวข้อ “แนวทางการเชื่อมโยงการทำงานเพื่อขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ให้บรรลุเป้าหมาย SRI For All” โดย ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ มีอยู่ รองผู้อำนวยการ สกสว. พร้อมแลกเปลี่ยนตัวอย่างงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเครือข่าย ทปอ. 5 แห่ง
ศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา วงศ์เกษมจิตต์ รองอธิการบดี มฟล. ได้นำเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์งานวิจัยของนักวิจัย มฟล. ภายใต้กรอบแนวคิด FMFC (Innovative Farmers, Traditional Medicines, Healthy Food and Cosmetics) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเกษตรนวัตกรรม สมุนไพรพื้นถิ่น อาหารสุขภาพ และเครื่องสำอางจากทรัพยากรท้องถิ่น โดยเชื่อมโยงสู่การใช้ประโยชน์ในระดับชุมชน เศรษฐกิจ และสังคม
หนึ่งในกรณีศึกษาสำคัญคือ ศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรครบวงจร ซึ่งเป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในพื้นที่ ผ่านการทดสอบคุณภาพ การขึ้นทะเบียน และการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน โดยสามารถสร้างผลตอบแทนทางสังคม (SROI) เท่ากับ 5.19
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ โครงการพัฒนาคุณภาพเมล็ดกาแฟอะราบิกา ในพื้นที่ดอยช้าง ปางขอน และเวียงแก่น ที่ช่วยเพิ่มรายได้เฉลี่ย 5,000 บาทต่อคนต่อปี มีผู้มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 71% และเกิดการจ้างงานในพื้นที่ต่อฤดูกาล ส่วน โครงการขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ในจังหวัดเชียงราย ได้ผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 70 รายการ สนับสนุนผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม 40 ราย มีผู้ได้รับประโยชน์รวม 490 ราย และสร้างทรัพย์สินทางปัญญา 12 รายการ คิดเป็น SROI เท่ากับ 3.56
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังส่งเสริมสินค้าเกษตรที่มี สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เช่น สับปะรดนางแล ชา และกาแฟ โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพ การขึ้นทะเบียน และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ตลาดที่กว้างขึ้น
ในด้านการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ มหาวิทยาลัยมีผลงานจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว 331 รายการ มีการอนุญาตใช้สิทธิ 43 ราย รวมมูลค่ากว่า 3.2 ล้านบาท และมีการจัดตั้ง Startup แล้ว 63 ราย รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 31.5 ล้านบาท
ในมิตินโยบาย มหาวิทยาลัยมีผลงานวิจัย 2 เรื่องที่ได้รับการอ้างอิงในกระบวนการจัดทำนโยบายระดับประเทศ อาทิ โครงการด้านภูมิสารสนเทศเพื่อสุขภาพ (GIS) ที่ดำเนินการร่วมกับ สวรส. และ GISTDA และยังมีพื้นที่นำร่องที่นำงานวิจัยไปใช้จริงแล้ว 106 อำเภอทั่วประเทศ โดย 103 อำเภอมีผลลัพธ์ที่สามารถวัดการเปลี่ยนแปลงเชิงนัยสำคัญได้
การเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้แสดงบทบาทในฐานะ “มหาวิทยาลัยเพื่อพื้นที่” ที่ขับเคลื่อนงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริง ด้วยเป้าหมาย “Well-being and Sustainable Future” ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนในระดับชุมชนและประเทศ