วช. ประกาศทุนวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2570 “โครงการร่วมทุนเพื่อการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศในภูมิภาคยุโรป (Southeast Asia-Europe Joint Funding Scheme on Research and Innovation, SEA-Europe JFS)” ครั้งที่ 10
วัตถุประสงค์ในการเปิดรับสมัครทุน
เพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (STI) ไปสู่แนวทางการออกแบบ อย่างยั่งยืน (Sustainable Design) ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศเลวร้าย การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และรูปแบบการตกลงมาของน้ำในบรรยากาศสู่ พื้นผิวโลก (Precipitation) ที่เปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและรับมือของท้องถิ่น ทั้งในภูมิภาคยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต่างก็ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ถือเป็นวาระสำคัญ ในทั้งสองภูมิภาค
หัวข้อการวิจัยที่เปิดรับ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จะประกาศรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรมในหัวข้อหลัก (Topic) “ความพร้อมในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกษตรอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (AI และ IoT) (Climate Resilient, Smart Agriculture using AI and IoT)” โดยครอบคลุม ประเด็นต่อไปนี้
๑) วิทยาศาสตร์การเกษตร (Agricultural Sciences)
- วิทยาการพืชไร่และพืชสวน (Crop science and agronomy)
- วิทยาศาสตร์ดินและการจัดการชลประทาน (Soil science and irrigation management)
- เกษตรนิเวศและระบบการเกษตรที่ยั่งยืน (Agroecology and sustainable farming systems)
๒) วิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ (Climate Science)
- แบบจำลองภูมิอากาศและการประเมินผลกระทบ (Climate modelling and impact assessment)
- ยุทธศาสตร์การปรับตัวด้านการเกษตร (Adaptation strategies for agriculture)
- การพยากรณ์อากาศและระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Weather forecasting and early warning systems)
๓) วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Environmental Science)
- การใช้ประโยชน์ที่ดินและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Land use and biodiversity conservation)
- การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นต์และการติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon footprint and emissions tracking)
- การจัดการทรัพยากรน้ำ (Water resource management)

ลักษณะของทุนและงบประมาณสนับสนุน
๑) เป็นโครงการร่วมระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้–ยุโรป โดยต้องประกอบด้วยภาคีความร่วมมือ อย่าง น้อย ๓ หน่วยงาน จาก ๓ ประเทศที่แตกต่างกัน ตามกฎ ๒+๑ กล่าวคือ ภาคี ๒ หน่วยงานต้องมาจาก ๒ ประเทศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอีก ๑ หน่วยงานมาจากประเทศในยุโรป หรือ ภาคี ๒ หน่วยงานต้องมาจาก ๒ ประเทศในยุโรป และอีก ๑ หน่วยงานมาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๒) วช. จะสนับสนุนงบประมาณแก่นักวิจัยไทย ไม่เกิน ๒ โครงการๆ ละไม่เกิน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท/ปี และ มีระยะเวลาในการรับทุนไม่เกิน ๓ ปี (๓๖ เดือน) รวมงบประมาณทั้งสิ้น ๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท/โครงการ โดยมี หลักเกณฑ์ (เงื่อนไข) ดังนี้
- งบประมาณอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรม
- งบประมาณส่วนใหญ่จะสนับสนุนกิจกรรมความร่วมมือ แต่ก็อาจจะสามารถใช้จ่ายบางส่วนเพื่อ ค่าใช้จ่ายในการวิจัยภายในประเทศที่จำเป็นต่อการทำความร่วมมือ
- ค่าบำรุงสถาบันไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของงบประมาณ
- งบบุคคลากร (ค่าจ้างชั่วคราวผู้ช่วยนักวิจัย) รวมแล้วไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของงบวิจัย
- ไม่สนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง การจัดซื้อ หรือโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การสร้าง อาคารสำนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องทดลอง
- ไม่สนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเครื่องมือหลัก
- ไม่สนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเครื่องมือสำนักงาน (ยกเว้นเครื่องมือพิเศษที่จำเป็นต่อการ ทำวิจัย)
ทั้งนี้ วช.จะพิจารณาสนับสนุนงบประมาณการวิจัยเป็นรายปี สำหรับโครงการที่มีระยะเวลาดำเนินการวิจัย มากกว่า ๑ ปี จะพิจารณาถึงผลสำเร็จในปีที่ได้รับทุนก่อนที่จะให้การสนับสนุนในปีต่อไป
คุณสมบัติของหัวหน้าโครงการวิจัยฝ่ายไทย
- มีสัญชาติไทย และมีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก หรือเทียบเท่า มีประสบการณ์การทำวิจัย มีตำแหน่งประจำอยู่ ในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการวิจัยที่เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย
- มีประสบการณ์ และศักยภาพในการดำเนินการวิจัย รวมถึงการบริหารการวิจัยและ/หรือ การบริหาร จัดการ มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดีในวิทยาการด้านใดด้านหนึ่งเกี่ยวกับการวิจัยในข้อเสนอการวิจัย ที่ขอรับทุน มีความพร้อมและประสบการณ์ในการวิจัยที่จะดำเนินการวิจัยได้สำเร็จ
- สามารถดำเนินการวิจัยร่วมกับผู้ร่วมวิจัยนานาชาติ สามารถปฏิบัติงานและควบคุมการวิจัยได้ทันทีและ ตลอดระยะเวลาที่ได้รับทุน รวมทั้งสามารถดำเนินการวิจัยให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีคุณภาพ
- ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานระดับอธิบดีหรือเทียบเท่าของภาครัฐที่หัวหน้าโครงการสังกัดอยู่ ให้ความเห็นชอบและรับรอง
- เป็นผู้มีจรรยาบรรณนักวิจัยตามจรรยาบรรณนักวิจัยของ วช.
- กรณีอยู่นอกเหนือจากคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นให้อยู่ในดุลพินิจของ วช.
การสมัครและการส่งข้อเสนอการการวิจัย
๑) นักวิจัยร่วมกันจัดทำข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรมเพียง ๑ ข้อเสนอการวิจัย/ทีม โดยจัดทำเป็น ภาษาอังกฤษตามแบบฟอร์มของโครงการ SEA-Europe JFS และทีมต้องเลือกสมาชิก ๑ คน เพื่อทำหน้าที่ เป็นผู้ประสานงานหลัก (Project Coordinator) เพื่อเป็นตัวแทนยื่นข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรมผ่านระบบออนไลน์ ของโครงการ SEA-Europe JFS ที่ PT-Outline Web Tool ผ่านทางเว็บไซต์ https://ptoutline.eu/app/JFS25STI ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๙ เวลา ๑๗.๐๐ น. ตามเวลาประเทศไทย
๒) เมื่อโครงการวิจัยผ่านการพิจารณาจากสมาชิกสภาวิทยาศาสตร์ (Scientific council) ของโครงการ SEA-Europe JFS แล้ว นักวิจัยหัวหน้าโครงการฝ่ายไทยต้องดำเนินการลงทะเบียนส่งข้อเสนอการวิจัยและ นวัตกรรมผ่านทางระบบ NRIIS ทางเว็บไซต์ https://nriis.go.th โดยต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขที่ กำหนด และแนบไฟล์แบบเสนอโครงการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี ๒๕๗๐ ในรูปแบบ PDF พร้อมยืนยันการส่ง ข้อเสนอการวิจัยให้สมบูรณ์ (สถานะข้อเสนอการวิจัยเป็น “รอผู้ร่วมวิจัยยืนยัน” หรือ “แหล่งทุนได้รับข้อเสนอ โครงการเรียบร้อยแล้ว” ในระบบ NRIIS)
หมายเหตุ:
- เพื่อความสะดวกขอให้ลงทะเบียนเป็นนักวิจัยในระบบ NRIIS และปรับสถานะและอัพเดทข้อมูล ของตนเองให้เป็นปัจจุบันที่ https://nriis.go.th/Register.aspx เนื่องจาก วช. จะพิจารณาข้อมูล ประวัตินักวิจัย ผู้เสนอรับทุนตามที่บันทึกในระบบ NRIIS โดยฝ่ายไทย: นักวิจัย ผู้ร่วมวิจัย ที่ปรึกษา และอาจารย์ที่ปรึกษาที่จะยื่นขอรับทุนสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมทุกท่านต้องมีชื่ออยู่ใน ระบบ NRIIS
- นักวิจัยทุกคนที่ร่วมโครงการวิจัยจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการสมัครของ SEA-Europe JFS และข้อปฏิบัติของหน่วยงานที่ร่วมประกาศในประเทศของตนด้วย เพื่อให้เป็นการสมัครที่สมบูรณ์
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามช่องทางต่อไปนี้
- เว็บไซต์ https://www.sea-europe-jfs.eu/calls
- ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ของ Call Secretariat: Callsec.JFS@nstda.or.th และ adam.bakhtiar@dipi.id
- กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ วช. ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข ๐ ๒๕๖๑ ๒๔๔๕ ต่อ ๒๐๖
ศึกษารายละเอียดตามประกาศฯเพิ่มเติม : คลิก