MFU Research News – School of Science
ผลงานวิจัยสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ในงาน MFU Research Expo 2025
Chapter #3
ภายใต้ธีม
“งานวิจัยและนวัตกรรมสู่ความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน (Well-Being and Sustainable Future)”
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (MFU) เตรียมจัดงาน MFU Research Expo 2025 ระหว่างวันที่ 23–24 ธันวาคม 2568 ณ ชั้น 5 อาคาร Educational Park (M-Square) เพื่อนำเสนอศักยภาพด้านวิจัยของมหาวิทยาลัยในทุกมิติ โดยสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ (School of Science) ได้นำเสนอผลงานเด่น 2 โครงการ ที่มุ่งสร้างองค์ความรู้ใหม่จากความหลากหลายทางชีวภาพของไทย พร้อมพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างสมดุล
.
ผลงานที่ 1: From Nature to Medicine – Discovery of Bioactive Compounds from Annonaceae Plants
หัวหน้าโครงการ: ศ.ดร.สุรัตน์ ละภูเขียว
Theme: ด้านการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
งานวิจัยนี้สำรวจศักยภาพทางเคมีของพืชในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยทำการศึกษาจากพืช 5 ชนิด ได้แก่ บุหงาคันธมาศ (Fissistigma fulgens), ปาหนันปุ่มต้น (Goniothalamus tortilipetalus), หัวลิง (Phaeanthus lucidus), สาวสอยดาว (Trivalvaria costata) และ กล้วยหมูสังดอกเล็ก (Uvaria leptopoda) โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ Fundamental Fund แผนงานของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยได้รับการสนับสนุนจาก สกสว.
จากการศึกษาสามารถแยกและพิสูจน์เอกลักษณ์สารออกฤทธิ์ได้รวม 75 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสารใหม่ที่ค้นพบครั้งแรกถึง 30 ชนิด โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น สเปกโทรสโกปี แมสสเปกโตรเมตรี และ X-ray diffraction
องค์ความรู้ที่ได้เผยให้เห็นว่าพืชเหล่านี้เป็นแหล่งสารสำคัญที่มีศักยภาพทางชีวภาพหลายด้าน เช่น
– สารจาก หัวลิง และ สาวสอยดาว แสดงฤทธิ์ต้านเอนไซม์ α-glucosidase (IC50 4.1–29.2 μM) ชี้ถึงศักยภาพการพัฒนาเป็นสารต้านเบาหวาน
– สารสกัดจาก ปาหนันปุ่มต้น มีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งการสร้างไนตริกออกไซด์ (NO)
– สารจาก บุหงาคันธมาศ แสดงฤทธิ์ต้านมะเร็งหลายชนิดและต้านไวรัสเด็งกี
– สารเฉพาะจาก กล้วยหมูสังดอกเล็ก กลุ่ม tetrahydroxanthene dimers มีฤทธิ์ยับยั้ง NO เด่นชัด (IC50 6.7 μM)
ผลการวิจัยสะท้อนความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพของไทยในฐานะแหล่งทรัพยากรสำหรับการค้นพบสารออกฤทธิ์ใหม่ และเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนา “ยา เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์สุขภาพจากธรรมชาติ”
Outcome ที่เกิดขึ้นจริง
✔︎ จากผลงานตีพิมพ์ระดับ Q1 จำนวน 6 ผลงาน ได้ผลิตองค์ความรู้เชิงลึกด้าน Natural Products Chemistry พร้อมทั้งสร้างบุคลากรระดับสูง ได้แก่ นักศึกษาปริญญาเอก 2 คน และนักวิจัยหลังปริญญาเอก 1 คน
✔︎ สร้างความร่วมมือระยะยาวกับนักวิจัยและพันธมิตรวิจัยนานาชาติ เสริมการทำงานร่วมกันเชิงวิชาการและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน
Impact ต่อประเทศและเศรษฐกิจชีวภาพ
✔︎ เพิ่มคุณค่าและศักยภาพการแข่งขันของทรัพยากรท้องถิ่น สอดคล้องกับการขับเคลื่อน Bioeconomy ของไทย
✔︎ เสริมสร้างบุคลากรคุณภาพสูงเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมสมุนไพรและสุขภาพอย่างยั่งยืน
✔︎ กระตุ้นการสร้างนวัตกรรมร่วมระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมจากฐานทรัพยากรชีวภาพ
✔︎ เสริมสร้างเครือข่ายวิจัยระดับนานาชาติ เพิ่มโอกาสความร่วมมือและการตีพิมพ์คุณภาพสูงในอนาคต
.
ผลงานที่ 2: From Nature to Nature – Bioremediation of Environmental Pollutants by Fungi
หัวหน้าโครงการ: รศ.ดร.ศิระประภา มหานิล
Theme: ด้านการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
งานวิจัยนี้มุ่งประเมินระดับการปนเปื้อนโลหะหนักในพื้นที่เกษตรกรรมของจังหวัดเชียงราย ผ่านตัวอย่างดินจากแหล่งปลูกข้าว ส้มโอ และกาแฟใน 4 อำเภอ ได้แก่ เมือง ขุนตาล เวียงแก่น และเวียงป่าเป้า การวิเคราะห์พบโลหะหนัก 20 ชนิด รวมถึง โคบอลต์ (Co) และ โครเมียม (Cr) ที่มีระดับสูงกว่ามาตรฐานองค์การอนามัยโลก สะท้อนถึงความเปราะบางของระบบเกษตรกรรมภาคเหนือ
โครงการได้รับ ทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการพัฒนาเทคโนโลยีไมคอร์รีมีดิเอชัน (mycoremediation) เพื่อการฟื้นฟูดินปนเปื้อนด้วยเชื้อราที่ปลอดภัยต่อระบบนิเวศ
เชื้อราเอนโดไฟต์ที่คัดเลือก ได้แก่ Diaporthe eugeniae LCL03, Colletotrichum fructicola LCL05, Fusarium solani LCL09 และ Daldinia eschscholtzii MFLUCC20-0215 ซึ่งสามารถ ดูดซับสารหนู (As) ได้ 100% และ ดูดซับ Cd, Co, Pb ได้ถึง 99.98% แสดงถึงศักยภาพของจุลินทรีย์จากธรรมชาติในการฟื้นฟูดินที่ปนเปื้อนโลหะหนักอย่างยั่งยืนและต้นทุนต่ำ
โครงการยังทำงานร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการเก็บตัวอย่างดิน การวิเคราะห์ความเสี่ยง และวิธีจัดการดินด้วยเชื้อรา ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิจัยและชุมชนอย่างแท้จริง
Outcome ที่เป็นรูปธรรม
✔︎ พัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีไมคอร์รีมีดิเอชันสำหรับบำบัดดินที่ปนเปื้อนโลหะหนัก
✔︎ ผลิตบุคลากรด้านงานวิจัย ได้แก่ นักศึกษาปริญญาเอก 1 คน และผู้ช่วยวิจัย 1 คน
✔︎ วางรากฐานงานตีพิมพ์ระดับ Q1 ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
Impact ต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
✔︎ แก้ปัญหาการปนเปื้อนสารหนูในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นความเสี่ยงระดับวิกฤตทั้งในประเทศและระดับโลก
✔︎ สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิจัยหลายสถาบันและเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน
✔︎ นำเสนอแนวทางบำบัดดินที่ยั่งยืน ราคาประหยัด และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ
ร่วมงาน MFU Research Expo 2025 พร้อมกิจกรรมเสวนาและนิทรรศการจากทุกสำนักวิชา
ภายในงานยังมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่
✔︎ บรรยายพิเศษ: “ทิศทางการให้ทุนระบบวิจัยและนวัตกรรม โดยผู้บริหาร สกสว.”
✔︎ เสวนา: “ทิศทางการพัฒนางานวิจัยในพื้นที่กลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)”
✔︎ เสวนา: “ปัญหาห่วงโซ่ในการจัดการสารปนเปื้อนลุ่มน้ำโขง/น้ำกก”
✔︎ การประกวดนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมจาก 15 สำนักวิชา พร้อมลุ้นรางวัล Platinum Award
✔︎ นิทรรศการผลงานจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยทั้ง 6 ศูนย์ของ MFU
ขอเชิญคณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร และนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงร่วมงาน
เพื่อพบกับศักยภาพงานวิจัยและนวัตกรรมของ MFU และร่วมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่เป้าหมาย
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน (Well-Being and Sustainable Future)”