MFU Research News – School of Agro-Industry
ผลงานวิจัยสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร ในงาน MFU Research Expo 2025
Chapter #6
ภายใต้ธีม
“งานวิจัยและนวัตกรรมสู่ความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน (Well-Being and Sustainable Future)”
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (MFU) เตรียมจัดงาน MFU Research Expo 2025 ระหว่างวันที่ 23–24 ธันวาคม 2568 ณ ชั้น 5 อาคาร Educational Park (M-Square) โดยสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร (School of Agro-Industry) นำเสนอผลงานเด่น 2 โครงการที่ขับเคลื่อนงานวิจัยตามยุทธศาสตร์ FMFC เชื่อมโยงเกษตรกรรมแปรรูป นวัตกรรมอาหารสุขภาพ และเศรษฐกิจ BCG เพื่อยกระดับมูลค่าผลผลิตและสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนเกษตรกรรมในพื้นที่
.
ผลงานที่ 1: PiNoVa วีนีการ์กัมมี่
หัวหน้าโครงการ: ผศ.ดร.พันธ์สิริ สุทธิลักษณ์ และคณะ
Theme: ด้านขับเคลื่อนงานวิจัยพัฒนาตามยุทธศาสตร์ FMFC
“PiNoVa วีนีการ์กัมมี่” เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกิดจากการเพิ่มมูลค่า เศษเหลือจากกระบวนการแปรรูปสับปะรดภูแลตัดแต่งพร้อมบริโภค ซึ่งมีปริมาณสูงถึงประมาณ 40% ของวัตถุดิบทั้งหมด โครงการนี้จึงใช้แนวคิด Zero-Waste และ BCG Economy ในการเปลี่ยนเศษสับปะรดให้กลายเป็น “วีนีการ์กัมมี่” เพื่อสุขภาพ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ดูแลสุขภาพผู้บริโภค และสร้างมูลค่าใหม่ให้ผลผลิตสับปะรดภูแลของจังหวัดเชียงราย
ผลิตภัณฑ์ PiNoVa วีนีการ์กัมมี่ ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิต แต่ยังช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนจากการกำจัดเศษเหลือทางการเกษตร พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) ของผลิตภัณฑ์สุขภาพจากภูมิภาคอย่างแท้จริง
Outcome ที่เกิดขึ้นจริง
มีผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Prototype) วีนีการ์กัมมี่ที่พร้อมต่อยอดสู่การวางจำหน่ายจริงในเชิงพาณิชย์
พัฒนาคู่มือกระบวนการผลิตมาตรฐาน (SOP) และชุดข้อมูลคุณภาพผลิตภัณฑ์ สามารถใช้เป็นต้นแบบให้กับผู้ประกอบการหรือชุมชนที่ต้องการผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรม
เกิดชุดองค์ความรู้การเพิ่มมูลค่าจากเศษสับปะรด ตามแนวคิด Zero-Waste – BCG ที่สามารถถ่ายทอดสู่เกษตรกร ชุมชน และ SME ในพื้นที่เชียงราย
พัฒนาต้นแบบโมเดลการขยายผลเชิงธุรกิจร่วมกับชุมชน/SME ทำให้เกิดต้นแบบรูปธรรมของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย–ชุมชน–ผู้ประกอบการ
เพิ่มมูลค่าจากวัสดุเศษเหลือจากกระบวนการแปรรูปสับปะรดภูแลตัดแต่งพร้อมบริโภค เปลี่ยนของเหลือใช้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ลดการสูญเสียในห่วงโซ่การผลิต
ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ทานง่าย ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ดูแลน้ำหนัก และสอดคล้องกับเทรนด์อาหารสุขภาพยุคใหม่
เกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่เริ่มหันกลับมาใช้เศษสับปะรดเป็นวัตถุดิบในการผลิต แทนการทิ้งหรือกำจัดเป็นของเสีย
ชุมชนท้องถิ่นมีช่องทางรายได้ใหม่ จากการเป็นเครือข่ายจัดหาวัตถุดิบหรือร่วมผลิตสินค้า
เกิดแบรนด์ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากภูมิภาคที่มีเรื่องเล่า (Storytelling) ชัดเจน สามารถต่อยอดสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ได้ในระยะยาว
Impact
สนับสนุนประเทศไทยสู่ BCG Economy ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสีย และลดของเสียจากภาคการเกษตร
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการกำจัดเศษสับปะรด ช่วยสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ
ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนของเชียงรายผ่านการสร้าง “ผลิตภัณฑ์ GI-Based Functional Food” จากสับปะรดภูแล
เสริมความสามารถในการแข่งขันของภาคอาหารสุขภาพไทยในตลาดสากล ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีจุดขายด้านฟังก์ชันและที่มาชัดเจนจากพื้นที่
พัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) ระหว่างมหาวิทยาลัย–ชุมชน–SME–อุตสาหกรรม ให้เชื่อมโยงกันอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
.
ผลงานที่ 2: การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผงชงเครื่องดื่มข้าวกล้องเพาะงอกเสริมโปรตีนไข่ผำ
หัวหน้าโครงการ: ผศ.วรรธิดา หอมถาวรชู และคณะ
Theme: ด้านขับเคลื่อนงานวิจัยพัฒนาตามยุทธศาสตร์ FMFC
โครงการนี้มุ่งพัฒนากรรมวิธีการผลิตและสูตร ผงชงเครื่องดื่มฟังก์ชัน ที่ใช้วัตถุดิบหลักจาก “ข้าวกล้องเพาะงอก” และ “ไข่ผำ (Wolffia globosa)” เพื่อต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรของไทยให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ข้าวกล้องเพาะงอกอุดมด้วยสาร กาบา (Gamma-Aminobutyric Acid: GABA) ซึ่งช่วยบำรุงสมอง ลดความเครียด และส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับ ขณะที่ “ไข่ผำ” เป็นพืชน้ำจิ๋วที่มี โปรตีนสูงกว่า 40% และอุดมด้วย วิตามินบี 12 ที่สำคัญต่อระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง
เทคโนโลยีการผลิตใช้หลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหารควบคุมขั้นตอนการอบแห้ง บดละเอียด และปรับสมบัติการละลายน้ำ เพื่อรักษาปริมาณกาบา โปรตีน และวิตามินให้ได้สูงที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นผงละเอียด ละลายน้ำง่าย รสชาติทานง่าย สะดวกต่อการพกพา เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพ ผู้สูงอายุ และนักกีฬา
Outcome ที่เกิดขึ้นจริง
พัฒนากรรมวิธีการผลิตและสูตรมาตรฐานของผงชงเครื่องดื่มข้าวกล้องเพาะงอกเสริมโปรตีนไข่ผำ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและละลายน้ำได้ดี พร้อมต่อยอดสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม
ได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Prototype) ของผงชงเครื่องดื่มฟังก์ชันที่พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ สามารถทดสอบตลาดและพัฒนาเป็นแบรนด์สินค้าได้
จัดทำรายงานผลการวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านปริมาณกาบา โปรตีน วิตามินบี 12 สมบัติทางกายภาพ และคุณภาพทางประสาทสัมผัส ช่วยยืนยันคุณค่าทางโภชนาการและความน่าบริโภค
จัดทำร่างผลงานวิชาการ/บทความ/ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อใช้ยื่นตีพิมพ์หรือลงทะเบียนคุ้มครององค์ความรู้ที่พัฒนาขึ้น
ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่ตอบโจทย์ตลาดสุขภาพ และมีศักยภาพในการแข่งขันเชิงพาณิชย์
เกิดการยกระดับมูลค่าผลผลิตจากข้าวและไข่ผำ ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอาหารและการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
เกษตรกรและผู้ประกอบการชุมชนสามารถนำองค์ความรู้ด้านกระบวนการผลิตและสูตรผลิตภัณฑ์ไปต่อยอดสร้างสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้และสร้างเอกลักษณ์สินค้าในพื้นที่
สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bioeconomy) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
Impact
สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้แก่ชุมชนเกษตร ด้วยการเพิ่มรายได้จากวัตถุดิบท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์แปรรูปมูลค่าสูง
ส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนผ่านการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปลอดคอเลสเตอรอล และเหมาะกับผู้ใส่ใจสุขภาพทุกช่วงวัย
ลดการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตร และเพิ่มการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 2 “ยุติความหิวโหยและส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน” และเป้าหมายที่ 3 “สร้างหลักประกันสุขภาวะที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย”
ร่วมงาน MFU Research Expo 2025 พร้อมกิจกรรมเสวนาและนิทรรศการจากทุกสำนักวิชา
ภายในงานยังมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่
บรรยายพิเศษ: “ทิศทางการให้ทุนระบบวิจัยและนวัตกรรม โดยผู้บริหาร สกสว.”
เสวนา: “ทิศทางการพัฒนางานวิจัยในพื้นที่กลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)”
เสวนา: “ปัญหาห่วงโซ่ในการจัดการสารปนเปื้อนลุ่มน้ำโขง/น้ำกก”
การประกวดนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมจาก 15 สำนักวิชา พร้อมลุ้นรางวัล Platinum Award
นิทรรศการผลงานจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยทั้ง 6 ศูนย์ของ MFU
ขอเชิญคณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร และนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงร่วมงาน
เพื่อพบกับศักยภาพงานวิจัยและนวัตกรรมของ MFU และร่วมขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน (Well-Being and Sustainable Future)”