MFU Research News – School of Liberal Arts
ผลงานวิจัยสำนักวิชาศิลปศาสตร์ ในงาน MFU Research Expo 2025
Chapter #14
ภายใต้ธีม
“งานวิจัยและนวัตกรรมสู่ความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน (Well-Being and Sustainable Future)”
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (MFU) เตรียมจัดงาน MFU Research Expo 2025 ในวันที่ 23–24 ธันวาคม 2568 ณ ชั้น 5 อาคาร Educational Park (M-Square) โดยในปีนี้ สำนักวิชาศิลปศาสตร์ (School of Liberal Arts) นำเสนอผลงานวิจัยเด่น 2 โครงการที่สะท้อนบทบาทของศาสตร์ศิลปะ–มนุษยศาสตร์ในการสร้างความเข้าใจ ความเท่าเทียม และความยั่งยืนทางสังคมอย่างลึกซึ้ง ทั้งในระดับชุมชน ประเทศ และประชาคมโลก
ผลงานทั้งสองโครงการเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้มิติด้านภาษา วัฒนธรรม การศึกษา และการสื่อสาร มาช่วยแก้ปัญหาสังคมร่วมสมัยอย่างสร้างสรรค์ อิงหลักฐานเชิงวิชาการ และเชื่อมโยงกับบริบทของพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) อย่างแนบแน่น
.
ผลงานที่ 1
Assembling More-than-Human Sustain-abilities in the Ecocritical Classroom: A Posthumanist Pedagogy for Literacy Education
หัวหน้าโครงการ: Assoc. Prof. Dr. Ignasi Ribó
Theme: ด้านการสร้างความเข้มแข็งของสังคมและเศรษฐกิจแบบยั่งยืน
งานวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา นวัตกรรมการเรียนการสอนด้านการรู้เท่าทันสิ่งแวดล้อม (Ecocritical Literacy) โดยผสานแนวคิด Posthumanism และ New Materialism เพื่อยกระดับทักษะและความตระหนักรู้ของผู้เรียนให้สามารถอยู่ร่วมกับโลกธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นในยุค Anthropocene ได้อย่างรับผิดชอบและยั่งยืน
โครงการได้เสนอกรอบแนวคิดใหม่ชื่อ Anthropocene Denizenship Education ซึ่งเน้นการพัฒนาทักษะสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่
• Vulner-ability — ความสามารถในการตระหนักรู้ความเปราะบางของตนเองและโลก
• Attend-ability — ความสามารถในการใส่ใจต่อความเจ็บปวดหรือผลกระทบที่เกิดกับผู้อื่น
• Response-ability — ความสามารถในการตอบสนองต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมีความหมาย
กรอบแนวคิดนี้ถูกนำไปใช้ในการออกแบบและสอนรายวิชา Environment, Literature and Culture ณ MFU ต่อเนื่อง 3 ปี (2022–2025) ผ่านกิจกรรมภาคสนาม–กิจกรรมเชิงสนทนา และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทำให้นักศึกษาเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์–สิ่งแวดล้อม–วัฒนธรรมในเชิงลึก
Output
ตีพิมพ์ผลงานวิชาการ Scopus Q1 จำนวน 3 บทความ และบทในหนังสือระดับนานาชาติ 1 บท
นำเสนอผลงานในเวทีนานาชาติ 5 ครั้ง เช่น UNESCO Chair, Ecological Humanities Congress
เปิดสอนรายวิชา Environment, Literature and Culture พร้อมรูปแบบการสอนเชิงนวัตกรรมที่พัฒนาจากงานวิจัย
Outcome
นักศึกษาเกิดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และโลกธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง
เกิดการรับรู้ด้าน “การอยู่ร่วมกันในโลกเดียวกัน” (more-than-human togetherness) ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืน
Impact
ผลงานได้รับการอ้างอิงในระดับนานาชาติจำนวน 26 ครั้ง และได้รับการยอมรับในแวดวงการศึกษาเชิงสิ่งแวดล้อม
สร้างรูปแบบการสอนต้นแบบที่สามารถขยายผลสู่สถาบันอื่นในไทยและในต่างประเทศได้
สร้างบุคลากรที่มีจิตสำนึกด้านความยั่งยืนสู่สังคมในระยะยาว
.
ผลงานที่ 2
การพัฒนานักสื่อสารรุ่นใหม่เพื่อลดอคติทางชาติพันธุ์
หัวหน้าโครงการ: ผศ.ดร.สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ และคณะ
Theme: ด้านการพัฒนางานวิจัยในพื้นที่กลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)
โครงการนี้มุ่งพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารรุ่นใหม่จาก 11 จังหวัด ครอบคลุมหลายชาติพันธุ์ เช่น ปกาเกอะญอ ไทใหญ่ ลาหู่ และคนเมือง(ล้านนา) เพื่อสร้างเครือข่ายนักสื่อสารที่สามารถผลิตสื่อคุณภาพเพื่อลดอคติทางชาติพันธุ์ และส่งเสริมความเท่าเทียมของผู้คนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ GMS งานวิจัยชี้ว่า กลุ่มชาติพันธุ์ยังเผชิญความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเหมารวมทางสื่อ ภาพลักษณ์เชิงลบ และปัญหานโยบายที่ไม่ครอบคลุม เช่น สิทธิในที่ดิน การเข้าถึงสวัสดิการ และสถานะบุคคล โครงการจึงออกแบบกระบวนการพัฒนานักสื่อสาร 8 ขั้นตอน ได้แก่ คัดเลือกนักสื่อสารรุ่นใหม่→ เรียนรู้เชิงวิพากษ์เกี่ยวกับอคติและมายาคติทางชาติพันธุ์ในสื่อ → สร้างประสบการณ์ร่วมในพื้นที่จริงเพื่อเปิดรับ “ความจริงใหม่” → สร้างเครือข่ายนักสื่อสารเพื่อลดอคติทางชาติพันธุ์ → ออกแบบเนื้อหาและรูปแบบสื่อสร้างสรรค์เพื่อลดอคติ → รับข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อปรับปรุงสื่อ → สื่อสารสาธารณะทั้งออนไลน์และออนไซต์ → และถอดบทเรียนกระบวนการเรียนรู้การสื่อสารเพื่อลดอคติ
Output 1. นักสื่อสารรุ่นใหม่ 22 คน จาก 5 ชาติพันธุ์ ใน 11 จังหวัด 2. นักสื่อสารเข้าพื้นที่เรียนรู้ 14 แห่งใน 6 จังหวัด เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตและเรียนรู้ประเด็นอคติเชิงโครงสร้าง พบ 5 ประเด็นอคติหลัก ได้แก่ อคติวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือบิดเบือน อคติเชิงโครงสร้าง (รัฐ กฎหมาย ระบบบริการ) อคติซ้อนอคติและความท้าทายในการดำรงชีวิต อคติภายใน (internalized bias) 3. ผลงานสื่อสร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับชาติพันธุ์ 19 ผลงาน จาก 12 ทีม 18 คน มีผู้เข้าถึงออนไลน์ 3.09 ล้านวิว, 142k ไลก์, 5.4k แชร์, 5.2k คอมเมนต์ มีการจัดกิจกรรมออนไซต์ 2 จังหวัด พร้อมสื่อ 12 ผลงานที่มีเนื้อหาหลักเน้น 1) รื้ออคติต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาติพันธุ์ เน้นความงดงามและความจริง 2) แก้ไขข้อมูลบิดเบือน ตอบโต้ข่าวปลอมและความเข้าใจผิด 3) อคติโครงสร้าง แสดงผลกระทบจากกฎหมายและนโยบาย 4) อัตลักษณ์ ชาติพันธุ์ และการเลือกปฏิบัติ ถ่ายทอดประสบการณ์ถูกเหยียดและลดค่า 4. พัฒนาเครือข่ายสื่อชาติพันธุ์ที่ทำงานร่วมกับชุมชนและสื่อท้องถิ่น พร้อมแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
Outcome นักสื่อสารรุ่นใหม่มีความเข้าใจและเคารพความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์มากขึ้น พร้อมทักษะ เจตคติเปิดกว้าง และเลนส์แหลมคมในการมองอคติทางชาติพันธุ์อย่างลึกซึ้งจนเห็นโครงสร้างอคติได้อย่างถ่องแท้ ส่งผลให้เป็นกระบอกเสียงที่รับผิดชอบ สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและลดอคติในสังคมได้อย่างมั่นใจ เกิดแกนนำเยาวชนชาติพันธุ์ที่ถ่ายทอดและต่อยอดองค์ความรู้สู่ชุมชนของตนได้
Impact โครงการช่วยลดความเข้าใจผิดระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และสังคมไทยในวงกว้าง เสริมพลังชุมชนในการสื่อสารสิทธิ ความเป็นธรรม และวิถีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี สร้างต้นแบบเครือข่ายนักสื่อสารชาติพันธุ์ระดับจังหวัดที่พร้อมขยายผลสู่พื้นที่ GMS ได้ในอนาคต ช่วยลดความขัดแย้งทางวัฒนธรรมและเปิดพื้นที่สนทนาเชิงสร้างสรรค์ระหว่างกลุ่มต่างๆ
.
ร่วมงาน MFU Research Expo 2025
พร้อมกิจกรรมเสวนา นิทรรศการ และงานแสดงผลงานวิจัยจากทุกสำนักวิชา
กิจกรรมสำคัญ ได้แก่
บรรยายพิเศษ: “ทิศทางการให้ทุนระบบวิจัยและนวัตกรรม โดยผู้บริหาร สกสว.”
เสวนา: “ทิศทางงานวิจัยในพื้นที่กลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)”
เสวนา: “ปัญหาห่วงโซ่ในการจัดการสารปนเปื้อนลุ่มน้ำโขง–น้ำกก”
นิทรรศการผลงานจาก 15 สำนักวิชา และประกวดรางวัล Platinum Award
นิทรรศการจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยทั้ง 6 ศูนย์ของ MFU
ขอเชิญคณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร และนักศึกษา
ร่วมค้นพบศักยภาพงานวิจัยของ MFU และร่วมสร้างอนาคตที่มุ่งสู่เป้าหมาย
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน (Well-Being and Sustainable Future)”
School of Liberal Arts MFU สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง